วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กสทช.เคลียร์ปมออกใบอนุญาตไทยคม 7



25 มกราคม 2556 เวลา 16:08 น.

     กสทช.ชี้แจงออกใบอนุญาตดาวเทียมไทยคมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ อัดกลุ่มหน้าเดิมบิดเบือนข้อมูล ซ้ำรอยกรณีประมูลคลื่น 3 จี  

      นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย และในฐานะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เปิดเผยถึง กรณีที่มีการนำประเด็นที่ กสทช. โดย กทค. ให้ใบอนุญาตประกอบกิจการแก่บริษัทไทยคม ในฐานะผู้ให้บริการช่องดาวเทียม ที่มีอายุ 20 ปี โดยไม่ผ่านการประมูลคลื่นความถี่ ไปร้องต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ว่า ใบอนุญาตที่อนุมัติให้ ไทยคมเป็นใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม มิใช่ใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ตามมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 จึงไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติดังกล่าว และไม่ต้องดำเนินการโดยวิธีการประมูลคลื่นความถี่

    ทั้งนี้ การที่ กทค. อนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมในครั้งนี้เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของ ชาติ เนื่องจากทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมไว้ได้  ในขณะที่ ไทยคม ได้ดำเนินการภายใต้มติ ครม. ที่อนุมัติให้ ไทยคม ดำเนินการรักษาสิทธิวงโคจรและจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่ขึ้นตามข้อกำหนด ITU ซึ่งหาก กสทช.ไม่อนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมให้กับ ไทยคม จะส่งผลทำให้ ไทยคม ไม่สามารถดำเนินการติดต่อประสานงานเพื่อจัดหาดาวเทียมอื่นมาไว้ที่วงโคจร เป็นการชั่วคราวได้ และหากไม่มีดาวเทียมขึ้นให้บริการภายในเวลาที่กำหนด (ตามหลัก ITU) ประเทศไทยก็จะเสียสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ 120 องศาตะวันออกที่ได้รักษาไว้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อประเทศไทย

   สำหรับประเด็นขั้นตอนในการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามอำนาจ หน้าที่ของกทค. ซึ่งในการดำเนินการ กทค.ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ ทำให้ ไทยคม เข้ามาอยู่ในระบบการควบคุมภายใต้กติกาโทรคมนาคมเสียก่อน  ซึ่งการออกใบอนุญาตประเภทนี้ไม่ต้องดำเนินการโดยประมูลคลื่นความถี่ แต่หากภายหลัง ไทยคม ต้องการขออนุญาตใช้คลื่นความถี่ เพื่อกิจการโทรคมนาคมก็ต้องดำเนินการโดยวิธีการประมูลคลื่นความถี่ตามมาตรา 45 ส่วนการดำเนินการให้ได้มาซึ่งเอกสารจองสิทธิในวงโคจรและย่านความถี่ (Filing) นั้นจะต้องดำเนินการโดยกระบวนการระหว่างประเทศตามข้อกำหนด ITU

    นอกจากนี้ที่ระบุว่าให้บริษัท ไทยคม ส่งเอกสารจองสิทธิการใช้งานวงโคจรเพิ่มเติมที่ตำแหน่งวงโคจรใดๆ ได้ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับ ไทยคม ที่เป็นผู้ประกอบการรายเก่าในการขยายสิทธิการใช้วงโคจรที่มีอยู่อย่างจำกัด จนอาจทำให้ไม่มีวงโคจรเหลือสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตามข้อเท็จจริงนั้น ITU มิได้มีการจำกัดจำนวนสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ประเทศหนึ่งประเทศใดจะจองสิทธิ แต่อย่างใด  ดังนั้นการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดเพื่อผู้ประกอบการดาวเทียม สื่อสารทุกรายที่เป็นผู้ได้รับอนุญาตจาก กสทช. จะได้สามารถส่งเอกสารจองสิทธิการใช้งานวงโคจร (Filing) ที่วงโคจรใดๆ ก็ได้เช่นกัน มิใช่เป็นการอนุญาตหรือให้สิทธิเป็นการเฉพาะแก่ ไทยคม

การที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ จึงควรศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้เข้าใจเสียก่อน มิเช่นนั้นอาจจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจนเกือบจะทำให้ประเทศชาติเสีย ประโยชน์เหมือนกับกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี ที่ผ่านมานายสุทธิพล กล่าว

ข่าวย้อน กทค.อนุมัติใบอนุญาตไทยคม 7




โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์  
27 มิถุนายน 2555 10:26 น.

 บอร์ด กทค.มีมติอนุมัติ ใบอนุญาตประเภทที่ 3 เพื่อกิจการดาวเทียม ส่งผลให้ไทยคม 7 เป็นดาวเทียมดวงแรกให้บริการภายใต้ใบอนุญาต พร้อมชงบอร์ดกสทช.อนุมัติหลักเกณฑ์ 3G
     
       
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกสทช.ในฐานะประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า บอร์ดกทค. มีมติอนุมัติใบอนุญาตประเภทที่ 3 สำหรับประกอบกิจการดาวเทียมที่ใช้สำหรับผู้ที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองให้กับ บริษัท ไทยคม เพื่อให้บริการดาวเทียมไทยคม 7 ในตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก ซึ่งไทยคมมีแผนจะยิงในปี 2557 เพื่อรักษาสิทธิวงโคจรโดยมีอายุของใบอนุญาตเป็นเวลา 20 ปี แต่สามารถต่อได้ 2 ครั้งๆ ละ 10 ปี และต้องสามารถเปิดให้บริการภายใน 7 ปีนับตั้งแต่วันได้รับใบอนุญาต
     
       
ส่วนเรื่องการคิดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตสำหรับกิจการดาวเทียม ประเภทที่ 3 นั้นจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมปีละ 2% จากรายได้รวมก่อนหักค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่รวมที่ต้องจ่ายให้กับกองทุนบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและ บริการเพื่อสังคม (USO) ในอัตราปีละ 3.75%

THCOM สู่อวกาศ .. ยิงดาวเทียมไทยคม 6 สู่วงโคจรกลางปีนี้


hooninside วันที่ : 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
THCOM สู่อวกาศ .. ยิงดาวเทียมไทยคม 6  สู่วงโคจรกลางปีนี้ 3 เทพหุ้น แนะซื้อ นำโดย เสือเหลือง MBKET ชี้ IPSTAR เป็นดาวดวงหลักดันผลงานปี56 สวยหรู พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 56 ขึ้น 35%  จากการรวมรายได้ขั้นต่ำขาย Capacity ทั้งหมดในจีนให้พันธมิตร ส่วนยอดจองไทยคม 6 ทะลัก อาจไม่พอต่อความต้องการ แจกเป้าใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 34 บ. ขณะที่ ASP บอกพัฒนาการ iPSTAR ที่จีนเกินคาด หนุนปรับเพิ่มประมาณการเฉลี่ยจากเดิม 28.6% Fair Value ใหม่อยู่ที่ 35 บ. Upside สูง 37%  ด้าน FSS ระบุ ตั้งแต่ Q1/56 THCOM จะไม่มีผลขาดทุนของ Mfone เข้ามากดดัน หลังศาลฯกัมพูชาสั่งให้เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ให้ราคาเป้าหมาย 28 บ.
        ฟาก ผู้บริหาร THCOM เผย ปี 56 ตั้งธงยอดขายช่องสัญญาณไอพีสตาร์เป็น 60% ส่วนยอดขายแบนด์วิธไทยคม 6 คาดเพิ่มเป็น 40-50%  หวังสรุปสร้างไอพีสตาร์ 2 ภายในครึ่งปีแรก 56 วางงบลงทุนปีนี้ 50-60 ล้าน เหรียญสร้างไทยคม 6

        นายเคน สตรุทเกอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายช่อง ไอพีสตาร์เป็น 60% จากเดิมที่ปี 55 อยู่ที่ 50% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเก่าที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นทางประเทศออสเตรเลีย

        ส่วนในของประเทศอินเดียอยู่ในช่วงพิจารณาเกี่ยวกับข้อกฏหมาย และศึกษาความสนใจของตลาด ซึ่งคาดว่าจะรู้แผนภายในครึ่งปีแรก พร้อมทั้งคาดยอดขายแบนด์วิธไทยคม 6 เป็น 40-50% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 38% ซึ่งจะขายเพิ่มในแอฟริกาและประเทศอียิปต์ มีภาพรวมตลาดที่ดี จึงทำให้คาดว่ายอดขายแบนด์วิธไทยคม 6 จะทะลุเป้า
        นายเคน กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ กำลังศึกษาความต้องการของลูกค้าว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใดถ้าหากลูกค้ามีการจองเกินครึ่ง บริษัทฯ จะทำไอพีสตาร์ 2 ซึ่งอยู่ในองศาที่ 120 รวมทั้งบริษัทวางแผนทำโครงการไทยคม 7 ซึ่งคาดว่าจะได้รู้คำตอบภายในครึ่งปีหลังซึ่งขณะนี้ไอพีสตาร์ 1 ได้รับประสบความสำเร็จในการขายที่ประเทศจีนซึ่งทำให้มีกำไรในปี 2555

        "ไอพีสตาร์ 2 จะมีก็ต่อเมื่อไอพีสตาร์ 1 มียอดขายเกิน 40% ซึ่งตอนนี้มีอยู่ที่ 24%ตอนนี้ก็กำลังศึกษาดูกลุ่มลูกค้าว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใดแล้วน่าจะรู้ผลภายในครึ่งปีหลัง" นายเคน กล่าว

        พร้อมกันนี้ ปี 2556 บริษัทฯ เตรียมเงินลงทุนไว้50-60 ล้านเหรียญ โดยแบ่งเป็นเงินลงทุนจากกระแสเงินสด  20 ล้านเหรียญ  เพื่อใช้ขยายงานส่วนของไทยคม 6 โดยที่ปัจจุบันในประเทศลาวมีความเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 117% ทำให้บริษัทฯ ขยายไทยคม 6 ต่อเนื่อง

        ทั้งนี้งบลงทุนดังกล่าวเป็นงบลงทุนปกติของบริษัทฯ
        บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดเผยว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) THCOM แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 34.00 บ. ขณะที่ระบุว่า IPSTAR เป็นดาวดวงหลัก ผลักดันการเติบโตปี 2556 พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 ขึ้น 35% หลังรวมรายได้ขั้นต่ำจากการขาย Capacity ทั้งหมดในจีนให้กับพันธมิตร เพิ่มประมาณการการใช้งาน iPSTAR ในไทยของ TOT เป็น 100% จากเดิม 80% ทำให้อัตราการใช้งานของ iPSTAR เฉลี่ยในปี 2556 อยู่ที่ 58% และปรับประมาณการการใช้กำลังการผลิตของไทยคม 6 ที่ 45% จากเดิม 39% หลังผู้บริหารส่งสัญญาณว่ายอดจองอาจสูงไม่ต่ำกว่า 50% และผลประกอบการปี 2556 จะไม่ได้รับผลกระทบจากการขาดทุนของ Mfone อีกต่อไป เราปรับราคาเป้าหมาย THCOM เพิ่มขึ้นเป็น 34.00 บาท พร้อมคาดเงินปันผลที่ 0.60 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทน 2.4% คงคำแนะนำ ซื้อ

        มีมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมนักวิเคราะห์  ผู้บริหารระบุรายได้จากการขาย Capacity ทั้งหมดของ iPSTAR ในจีน (24% ของ Capacity ทั้งหมด) จะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นไป ซึ่งรายได้นี้มี 2 ส่วนคือรายได้ขั้นต่ำ และส่วนแบ่งรายได้จากพันธมิตรในจีน ซึ่งเบื้องต้นจะได้รายได้ในส่วนแรกก่อน แต่เมื่อพันธมิตรสามารถขายต่อได้จะทำให้มีรายได้ส่วนหลังเพิ่มขึ้นมา เราประเมินรายได้ส่วนแรกที่เป็นพรีเมี่ยม 20% จากค่าเสื่อมราคาของ iPSTAR ตามสัดส่วนที่เป็น Capacity ของจีน คิดเป็นต่อเดือนที่ราว 46 ล้านบาท เราจึงปรับประมาณรายได้จาก iPSTAR ปี 2556 ขึ้น 13% และส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิต iPSTAR ปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 58.4%
        การใช้งานเพิ่มของ TOT ไร้ปัญหา แต่ลูกค้าอินเดียอาจยังต้องใช้เวลา:  ปัจจุบันบริษัทค่อนข้างมั่นใจว่าการเซ็นสัญญาการใช้งาน iPSTAR ส่วนที่เป็น Capacity ในไทยกับ TOT จะเป็นไปตามแผน ปัจจุบันมีความคืบหน้าเป็นลำดับอยู่ในขั้นตอนทางเอกสารเท่านั้น เราจึงปรับประมาณการการใช้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยปี 2556 จาก TOT เป็น 88% จากเดิม 73% และเป็น 100% ในปี 2557 จาก 80% ขณะที่ลูกค้าในอินเดียยังอยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งอาจต้องใช้เวลา เนื่องจาก Capacity ที่เหลือ ของ iPSTAR อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในอินเดีย ซึ่งอาจต้องรอการใช้งาน iPSTAR 2 (ไทยคม 8) ทำให้เรายังไม่รวมรายได้จากลูกค้ารายใหม่ในอินเดีย

        ยอดจองไทยคม 6 ทะลัก อาจไม่พอต่อความต้องการ: กำหนดการยิงดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจรยังเป็นไปตามเดิมคือในช่วงกลางปี 2556 ซึ่งมีจุดคุ้มทุนที่ 30% ซึ่งปัจจุบันมียอดจองอย่างเป็นทางการแล้ว 38% ของกำลังการผลิตทั้งหมด และหากรวมลูกค้าที่อยู่ระหว่างกระบวนการเจรจาทำสัญญาจะทำให้การใช้งานไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเริ่มใช้งาน เราปรับประมาณการอัตราการใช้กำลังการผลิตของไทยคม 6 ขึ้นเป็น 45% จากเดิม 39% และคงประมาณการเริ่มรับรู้เป็นรายได้ใน 4Q56 เป็นต้นไป ขณะที่ไทยคม 7 ยังกำหนดยิงขึ้นสู่วงโคจรในปี 2557 และดาวเทียมทั้ง 2 ดวงนี้จะเป็นปัจจัยหลักขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรของ THCOM ในปี 2557 ต่อเนื่อง เรายังไม่รวมรายได้จากไทยคม 7 ในประมาณการ
        เพิ่มราคาเป้าหมาย และเงินปันผลปี 2556: จากผลของการปรับประมาณการของ iPSTAR และ ไทยคม 6 ดังกล่าวข้างต้น ทำให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2556-2557 ของ THCOM ขึ้น 35% และ 33% คิดเป็นการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 659%YoY  และ 40% YoY ตามลำดับ และปรับสมมติฐานค่าเงิน บาท/US$ ที่ 30บาท/US$ จากเดิม 30.50 บาท/US$ ได้ราคาเป้าหมายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 34.00 บาท (WACC 12.6%, Terminal growth 2%) มี Upside gain  33% พร้อมปรับประมาณการเงินปันผลปี 2556 ขึ้นจาก 0.40 บาท เป็น 0.60 บาท (50% ของกำไรสุทธิในงบการเงินรวม)  ให้ผลตอบแทน 2.4% คงคำแนะนำ ซื้อ

        บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)  THCOM แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 25.50 บ.   ทั้งนี้ ดีลขาย iPSTAR ที่จีนดีเกินคาด หนุน Fair Value ใหม่อยู่ที่ 35.0 บาท THCOM คาดธุรกิจดาวเทียม iPSTAR ในประเทศจีนคุ้มทุนนับจากงวด 2Q56  ฝ่ายวิจัยเข้าประชุมกับ THCOM บริษัทได้ให้ข้อมูลพัฒนาการธุรกิจของดาวเทียม iPSTAR ที่ประเทศจีนมากขึ้น หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา THCOM ได้ทำข้อตกลงขายกำลังการให้บริการ iPSTAR ในประเทศจีน (24% ของกำลังการให้บริการ iPSTAR) แบบ wholesale ให้กับ Synertone ซึ่งเป็นผู้ประกอบการกิจการขายและให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมให้กับหน่วยงานภาครัฐฯของจีน โดยวานนี้ THCOM กล่าวว่าผลตอบแทนที่ Synertone ยินดีจะจ่าย คือ ผลตอบแทนคงที่ต่อปี

        ซึ่งจะอยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำที่สามารถชดเชยผลขาดทุนจากการดำเนินงานที่ประเทศจีนราวปีละ 500 ล้านบาท โดยเชื่อว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางงวดไตรมาส 2Q56 เป็นต้นไป และในอนาคต THCOM ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากส่วนแบ่งรายได้ หาก Synertone สามารถขายกำลังการให้บริการดังกล่าวได้ รวมถึง ยังมีผลตอบแทนในรูปหุ้นของ Synertone อีกบางส่วน
        นอกจากนี้  THCOM ยังได้สรุปผลประกอบการ 4Q55  ซึ่งเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาด คือ ธุรกิจหลักดาวเทียมยังค่อนข้างทรงตัว และยังคงต้องแบกขาดทุนจากธุรกิจบริการโทรศัพท์มือถือในกัมพูชา (MFone) เป็นไตรมาสสุดท้าย ซึ่ง THCOM ได้ตั้งสำรองผลขาดทุนไว้แล้วทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ผลชดเชยจากรายจ่ายโบนัสที่จ่ายครั้งเดียวใน 3Q55 และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ช่วยให้กำไรปกติงวดนี้อยู่ที่ 255 ล้านบาท คิดเป็นกำไรปกติปี 2555 ที่ 621 ล้านบาท แต่หากรวมรายการพิเศษ ซึ่งหลักๆ จากรายจ่ายเพื่อยกเลิก MFone ราว 448 ล้านบาท กำไรสุทธิปี 2555 จะอยู่ที่ 173 ล้านบาท  พลิกจากขาดทุนปีก่อน
       
พัฒนาการ iPSTAR ที่จีนเกินคาด หนุนปรับเพิ่มประมาณการเฉลี่ยจากเดิม 28.6%
        พัฒนาเชิงบวกในประเทศจีนเป็นสิ่งที่เหนือกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด เพราะนอกจากจะช่วยให้อัตราการใช้งาน iPSTAR พุ่งขึ้นจากปัจจุบันที่ 25% สู่ระดับ 49% ผลตอบแทนคงที่ต่อปีที่สูงถึงระดับคุ้มทุนในจีน ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2556-57 จากเดิม 26.4% และ 30.8% ตามลำดับ โดยได้รวมมีประเด็นบวกใหม่ ๆ คือ ปรับเพิ่มผลตอบแทนคง iPSTAR จากเดิมที่ไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการมาเป็นรับรู้ไตรมาสละ 125  ล้านบาท ตั้งแต่งวด 2Q56  เป็นต้นไป โดยเชื่อว่ารายได้ระดับดังกล่าวท่ากับระดับที่สามารถคุ้มทุน (ค่าเสื่อม+ค่าใช้จ่ายในการดำเนิน) บริการ iPSTAR ในประเทศจีนแล้ว


        ขณะที่ยังมีประเด็นบวกอื่น ๆ ที่ได้รวมไว้ในประมาณการแล้ว คือ 1) การบรรลุข้อตกลงขายกำลังการให้บริการดาวเทียม iPSTAR ส่วนที่เหลือในประเทศไทยอีก 50% ซึ่งคิดเป็น 4.0% ของกำลังการให้บริการ iPSTAR ทั้งหมด ให้กับ TOT คู่สัญญาปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ 50% ภายในงวดไตรมาส 1 นี้  2) ขาดทุนจากการดำเนินงานธุรกิจ MFone เฉลี่ยปีละ 500 ล้านบาท

        คาดจะหยุดรับรู้ในปี 2556 ทั้งหมด หลังจากศาลกรุงพนมเปญมีคำสั่งนำ MFone เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เพื่อขายสินทรัพย์ MFone ทอดตลาด  และ 3) ภาระดอกเบี้ยในปี 2556 คาดว่าจะลดลงจากปี 2555 ราว 100 ล้านบาท  จากการจ่ายคืนหุ้นกู้ 3.3 พันล้านบาทในช่วงปลายปี 2555 คาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปีก่อนหน้า และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 24.8% ในปีหน้า จากผลบวกดาวเทียมไทยคม 6 ที่จะรับรู้เต็มปี หลังจากยิงขึ้นสู่ท้องฟ้างวด 3Q56 นี้    

       
Fair Value ใหม่อยู่ที่ 35 บาท Upside สูง 37% ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
        ฝ่ายวิจัยกำหนดมูลค่าพื้นฐานใหม่อิงวิธี DCF จะอยู่ที่ 35 บาท ด้วย Upside ที่กลับมาสูง 37% จากราคาปัจจุบัน ขณะที่เชื่อว่าสามารถคาดหวัง Div yield จาก THCOM ในระดับ 3% - 4% ต่อปี นับจากปี 2556 เป็นต้นไป ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ทั้งนี้ THCOM ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2555 ที 0.4 บาทต่อหุ้น Div Yield 1.6% (ขึ้น XD - 2 เม.ย. 56)


        บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) THCOM ศาลฯกัมพูชาสั่งให้ Mfone เข้าสู่กระบวนการล้มละลายแล้ว ดังนั้น ตั้งแต่ 1Q13 THCOM จะไม่มีผลขาดทุนของ Mfone และไม่มีการตั้งสำรองด้อยค่า Mfone เข้ามากดดัน เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 28 บาท

        THCOM
6วันพุ่ง9.56%  เทพทางใน ระบุราคาพุ่งแรงเข้าเขต Overbought แนะตัดใจขายที่แนวต้าน28บ.
        ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) THCOM  พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 วันทำการ โดยคำนวณจากราคาปิดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 ปิดที่ 23.00 บาท  เทียบกับราคาสูงสุดของวันนี้ ( 20 กุมภาพันธ์ 2556) อยู่ที่ 27.50บาท โดยราคาหุ้น THCOM  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.5 บาท หรือคิดเป็น 19.56%

        นายนพดล พิริยวุฒิ นักวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ธนชาต กล่าวว่า ราคาหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) THCOM ตามสัญญารทางเทคนิคปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ซึ่งราคาปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกินไป (Overbought)  ดังนั้นแนะนำนักลงทุนขายที่แนวต้าน28บาท

        ปิดการซื้อขาย( 20 ก.พ. 56) ราคาหุ้น THCOM  อยู่ที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 7.84%  มูลค่าการซื้อขาย 1.97 พันล้านบาท

THCOM ตั้ง​เป้าขายช่องสัญญาณ​ไอพีสตาร์ปีนี้ 60%


สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (IQ) -- พุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 14:06:43 น.


นาย​เคน สตรุท​เกอร์ ​ผู้ช่วย​ผู้อำนวย​การฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.​ไทยคม (THCOM) ​เปิด​เผยว่า ตั้ง​เป้าขายช่องสัญญานช่อง IPSTAR 6 ​ให้​ได้ที่ 60% ของช่องสัญญาณ​ทั้งหมด ​โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ​ได้ขายช่องสัญญาณ​ไป​แล้วกว่า 50% หลังจากบรรลุข้อตกลงกับพันธมิตร​ในจีน ​ซึ่งซื้อช่องสัญญาณ​ไปกว่า 24% ขณะลูกค้าที่อยู่ระหว่าง​การ​เจรจา​ในอิน​เดีย คาดว่าจะมี​ความชัด​เจน​ในช่วงครึ่งปี​แรกนี้

​ในส่วนของดาว​เทียม ​ไทยคม 6 บริษัทฯตั้ง​เป้ายอดขายล่วงหน้าของช่องสัญญาณดาว​เทียม (Bandwidth) 40-50% จากปัจจุบันขาย​ไป​แล้วกว่า 38% ​ซึ่ง​โอกาส​ใน​การขายช่องสัญญาณ​ได้​เพิ่มมาจากกลุ่มประ​เทศทวีป​แอฟริกา ที่มี​ความต้อง​การ​ใช้ช่องสัญญาณสูง นอกจากนี้บริษัทฯมี​แผน​ใน​โครง​การ​ไทยคม 7 ​โดยช่วง​แรกช่องสัญญาณ​ใน​ไทยคม 7 จะ​เป็นส่วนของ​การสื่อสาร ​โดย​การส่งดาว​เทียม​ไทยคม 7 จะอยู่​ในวง​โคจรที่​แตกต่างจาก IPSTAR

ส่วน​แผน​โครง​การ IPSTAR 2 ขณะนี้อยู่ระหว่าง​การศึกษา​ความต้อง​การของกลุ่มลูกค้า ​ในประ​เทศอิน​เดีย จีน ญี่ปุ่น ​และ ออส​เตร​เลีย ว่ามี​ความต้อง​การมาก​แค่​ไหน​โดย​โครง​การ IPSTAR2 จะ​เกิดขึ้น​ได้ต้องมี​เงื่อน​ไข 2 ข้อ คือ

1.IPSTAR1 จะต้องขาย​ให้​ได้อย่างน้อย 40 % 
2. ยอดจอง IPSTAR2 จะต้องมีอย่างน้อย 50% ​ซึ่ง​โครง​การ IPSTAR2 จะมี​ความชัด​เจน​ในช่วงครึ่งปีหลัง ​และจะขยายตลาด​ไปยังประ​เทศ อิน​โดนี​เซีย ​และ ฟิลิปปินส์

ส่วนงบลงทุนปี 56 ตั้งงบ​ไว้ที่ 50-60 ล้าน​เหรียญ ​โดย​แบ่ง​เป็นจำนวน 30-40 ล้าน​เหรียญ จะ​ใช้​ใน​โครง​การ​ไทยคม 6 ​และอีก 20 ล้าน​เหรียญจะ​ใช้​ในงบลงทุนปกติของบริษัทฯ
​ในส่วนของ DTV ปีนี้บริษัทฯมี​แผนปีนี้จะ​เปิดตัวกล่องสัญญาณ HD ที่มีราคาถูก ​เพื่อรองรับตลาด​ในช่อง HD ที่ปัจจุบันมี​แนว​โน้ม​เพิ่มขึ้นอย่างต่อ​เนื่อง ​และจะขยายฐานลูกค้า​เพิ่ม จากที่มีอยู่​ในปัจจุบัน 1.4 ล้านราย

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Thaicom 6 (AfriCom 1)

Thaicom 6

The Thaicom 6 Satellite design is based on Orbital's highly successful, flight-proven, GeoStar-2 ™ satellite platform, and will be manufactured and tested at Orbital's state-of-the-art manufacturing facility in Dulles, VA.
Thaicom 6 will be located at 78.5 degrees East Longitude, and carry a hybrid Ku- and C-band payload that will generate approximately 3.7 kilowatts of payload power. The Ku-band payload will be comprised of eight active transponders providing services to Thailand, Laos, Cambodia, and Myanmar. The C-band payload will feature 12 active C-band transponders providing services via a regional beam to Southeast Asia, and six active C-band transponders providing services via a south Africa beam to southern Africa and Madagascar.

Performance:
C-band
C1 Repeater: 12 active C-band transponders
C2 Repeater: 6 active C-band transponders
Payload Power: 3.7kW
Ku-band
Repeater: 8 active Ku-band transponders
Antenna: 2.5m x 2.7m single offset super-elliptical deployable reflector antenna

Stabilization: 3-axis stabilized; zero momentum
Launch Mass: 3,325 kg (7,330 lb.)
Mission Life: ≥ 15 years
Status:
In Integration and Test. Scheduled for Launch in 2013
    

Customer:
Thaicom Public Limited Company
Mission: Ku- and C-band communications

ไทยคมรุ่ง ไร้ปัญหาเอ็มโฟน iPSTAR จีนดีกว่าคาด-คุ้มทุน Q2


ข่าวหุ้น วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 11:06:57 น.

 บล.เอเซีย พลัส แนะนำ “ซื้อ” THCOM โดยระบุว่า
คาดธุรกิจดาวเทียม iPSTAR ในประเทศจีนคุ้มทุนนับจากงวด 2Q56

วานนี้ฝ่ายวิจัยเข้าประชุมกับ THCOM บริษัทได้ให้ข้อมูลพัฒนาการธุรกิจของดาวเทียม iPSTAR ที่ประเทศจีนมากขึ้น หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา THCOM ได้ทำข้อตกลงขายกำลังการให้บริการ iPSTAR ในประเทศจีน (24% ของกำลังการให้บริการ iPSTAR) แบบ wholesale ให้กับ Synertone ซึ่งเป็นผู้ประกอบการกิจการขายและให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมให้กับหน่วยงาน ภาครัฐฯของจีน
โดยวานนี้THCOM กล่าวว่าผลตอบแทนที่ Synertone ยินดีจะจ่าย คือ ผลตอบแทนคงที่ต่อปี ซึ่งจะอยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำที่สามารถชดเชยผลขาดทุนจากการดำเนินงานที่ประเทศ จีนราวปีละ 500 ล้านบาท โดยเชื่อว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่กลางงวดไตรมาส 2Q56 เป็นต้นไป และในอนาคต THCOM ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากส่วนแบ่งรายได้ หาก Synertone สามารถขายกำลังการให้บริการดังกล่าวได้ รวมถึง ยังมีผลตอบแทนในรูปหุ้นของ Synertone อีกบางส่วน

นอกจากนี้ THCOM ยังได้สรุปผลประกอบการ 4Q55 ซึ่งเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาด คือ ธุรกิจหลักดาวเทียมยังค่อนข้างทรงตัว และยังคงต้องแบกขาดทุนจากธุรกิจบริการโทรศัพท์มือถือในกัมพูชา (MFone) เป็นไตรมาสสุดท้าย ซึ่ง THCOM ได้ตั้งสำรองผลขาดทุนไว้แล้วทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ผลชดเชยจากรายจ่ายโบนัสที่จ่ายครั้งเดียวใน 3Q55 และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ช่วยให้กำไรปกติงวดนี้อยู่ที่ 255 ล้านบาทคิดเป็นกำไรปกติปี 2555 ที่ 621 ล้านบาท แต่หากรวมรายการพิเศษ ซึ่งหลักๆ จากรายจ่ายเพื่อยกเลิกMFone ราว 448 ล้านบาท กำไรสุทธิปี 2555 จะอยู่ที่ 173 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนปีก่อน

พัฒนาการ iPSTAR ที่จีนเกินคาด หนุนปรับเพิ่มประมาณการเฉลี่ยจากเดิม 28.6%
พัฒนาเชิงบวกในประเทศจีนเป็นสิ่งที่เหนือกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด เพราะนอกจากจะช่วยให้อัตราการใช้งานiPSTAR พุ่งขึ้นจากปัจจุบันที่ 25% สู่ระดับ 49% ผลตอบแทนคงที่ต่อปีที่สูงถึงระดับคุ้มทุนในจีน ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2556-57 จากเดิม 26.4% และ 30.8% ตามลำดับ โดยได้รวมมีประเด็นบวกใหม่ ๆ คือ ปรับเพิ่มผลตอบแทนคง iPSTAR จากเดิมที่ไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการมาเป็น
รับรู้ไตรมาสละ 125 ล้านบาท ตั้งแต่งวด 2Q56 เป็นต้นไป โดยเชื่อว่ารายได้ระดับดังกล่าวท่ากับระดับที่สามารถคุ้มทุน (ค่าเสื่อม+ค่าใช้จ่ายในการดำเนิน) บริการ iPSTAR ในประเทศจีนแล้ว ขณะที่ยังมีประเด็นบวกอื่น ๆ ที่ได้รวมไว้ในประมาณการแล้ว คือ

1) การบรรลุข้อตกลงขายกำลังการให้บริการดาวเทียมiPSTAR ส่วนที่เหลือในประเทศไทยอีก 50% ซึ่งคิดเป็น 4.0% ของกำลังการให้บริการ iPSTAR ทั้งหมดให้กับ TOT คู่สัญญาปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ 50% ภายในงวดไตรมาส 1 นี้ 

2) ขาดทุนจากการดำเนินงานธุรกิจ MFone เฉลี่ยปีละ 500 ล้านบาท คาดจะหยุดรับรู้ในปี 2556 ทั้งหมด หลังจากศาลกรุงพนมเปญมีคำสั่งนำ MFone เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เพื่อขายสินทรัพย์ MFoneทอดตลาด และ 

3) ภาระดอกเบี้ยในปี 2556 คาดว่าจะลดลงจากปี 2555 ราว 100 ล้านบาท จากการจ่ายคืนหุ้นกู้ 3.3 พันล้านบาทในช่วงปลายปี 2555 คาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากปีก่อนหน้า และจะเติบโตต่อเนื่องอีก 24.8% ในปีหน้า จากผลบวกดาวเทียมไทยคม 6 ที่จะรับรู้เต็มปี หลังจากยิงขึ้นสู่ท้องฟ้างวด 3Q56 นี้

Fair Value ใหม่อยู่ที่ 35 บาท Upside สูง 37% ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ
ฝ่ายวิจัยกำหนดมูลค่าพื้นฐานใหม่อิงวิธี DCF จะอยู่ที่ 35 บาท ด้วย Upside ที่กลับมาสูง 37% จากราคาปัจจุบัน ขณะที่เชื่อว่าสามารถคาดหวัง Div yield จาก THCOM ในระดับ 3% - 4% ต่อปี นับจากปี 2556 เป็นต้นไป ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ทั้งนี้ THCOM ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2555 ที 0.4 บาทต่อหุ้น Div Yield 1.6% (ขึ้น XD - 2 เม.ย. 56)

*** บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า THCOM ศาลฯกัมพูชาสั่งให้ Mfone เข้าสู่กระบวนการล้มละลายแล้ว ดังนั้น ตั้งแต่ 1Q13 THCOM จะไม่มีผลขาดทุนของ  Mfone และไม่มีการตั้งสำรองด้อยค่า Mfone เข้ามากดดัน เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 28 บาท

THCOM ระบุ เอ็มโฟนเข้าขั้นตอนการปิดกิจการ ไม่กระทบทางการเงิน


ศาลกัมพูชารับคำร้อง เอ็มโฟนเข้าขั้นตอนการปิดกิจการ THCOM ระบุไม่ส่งผลกระทบทางการเงินอย่างมีสาระสำคัญ


บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้รับแจ้งจาก บริษัท เชนนิงตัน อินเวสเม้นท์ส พีทีอี จำกัด ว่าเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ศาลกัมพูชาได้มีคำสั่งให้รับคำร้องเพื่อนำเอ็มโฟนเข้าสู่ขั้นตอนการปิดกิจการแล้ว โดยให้เริมดำเนินการตามขั้นตอน และแต่งตั้ง Administrator เข้ามาควบคุมดูแลและดำเนินการต่างๆ ตามที่กฎหมายของประเทศกัมพูชากำหนด
          ทั้งนี้ การปิดกิจการของเอ็มโฟน จะไม่ส่งผลกระทบทางการเงินอย่างมีสาระสำคัญต่องบการเงินรวม และงบการเงินเฉพาะกิจการของไทยคม ในปี 2556 เนื่องจาก บริษัทฯ ได้ตั้งสำรองขาดทุนจากการด้อยค่าและสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้แล้วในงบการเงินปี 2555

 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการ บริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM แจ้งว่า ตามที่มีข่าวว่า ศาลกัมพูชาได้มีคำสั่งให้ บริษัท เอ็มโฟน จำกัด ซึ่งลงทุนโดยบริษัท เชนนิงตัน อินเวสเม้นท์ พีทีอี จำกัด ขณะที่บริษัทเป็นเพียงผู้ถือหุ้นในเชนนิงตัน มิได้มีการลงทุนในบริษัทเอ็มโฟนจำกัดแต่อย่างใด และมีความรับผิดชอบจำกัด ดังนั้น คำสั่งของศาลดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัท



ทั้งนี้ บริษัทได้รับแจ้งจากเชนนิงตันว่า คำสั่งของศาลดังกล่าวเป็นคำสั่งชั่วคราวเพื่อให้คุ้มครองเจ้าหนี้ของบริษัท เอ็มโฟน จำกัด เป็นจำนวนเงิน 3.7 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม คำสั่งศาลไม่ได้หมายรวมถึงการให้บริษัท เอ็มโฟน จำกัด ต้องชำระเงินดังกล่าว โดยเชนนิงตัน ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งที่มีอยู่ในขณะนี้

ไทยคมพลิกกำไรครั้งแรกรอบ5ปี ชี้ธุรกิจดาวเทียมสร้างรายได้กว่า6,279ล้าน


หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 06:00:00 น.

นาง ศุภจี สุธรรมพันธุ์?ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม?เปิดเผยว่า เมื่อปี 2554 บริษัทตั้งเป้าที่จะพลิกผลประกอบการให้มีกำไร และในปี 2555 ก็ประสบความสำเร็จ และยังได้วางรากฐานที่สำคัญของการเติบโตต่อไปในอนาคต ทั้งนี้บริษัทสามารถพลิกผลประกอบการให้ทำกำไรสุทธิรวมเป็นครั้งแรกได้ในรอบ 5 ปี 

และเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้มีมติให้เสนอ จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 253% ของกำไรสุทธิรวม หรือ 56% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญ ประจำปีของผู้ถือหุ้นของบริษัท ที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคม 2556 อีกครั้ง

ทั้ง นี้ มีรายได้จากการขายและบริการรวมในปี 2555 ทั้งสิ้น 7,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% จากปี 2554 โดยรายได้หลักกว่า 86% ยังคงมาจากธุรกิจดาวเทียม ซึ่งมีรายได้จากการให้บริการวงโคจรดาวเทียมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 6,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% จากปี 2554 เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 13.8% จากการเติบโตของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและการให้บริการเสริมแก่ลูกค้า ของดาวเทียมไทยคม 5 และรายได้จากการให้บริการดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ที่เพิ่มขึ้น 7.7% จากการรับรู้รายได้ตลอดปีของการให้บริการแก่ลูกค้าตามสัญญาที่เกิดขึ้นในปี 2554 เช่น การให้บริการแก่ ซอฟท์แบงค์ เมียแซท และเอ็นบีเอ็น โค

นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถขายช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 6 ล่วงหน้าได้แล้วถึง 40% ( คุ้มทุนที่ 30% ) ทั้งนี้ จะเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วและชัดเจนขึ้นอีกหลังการส่งดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจรในปี 2556 นี้ รวมถึงดาวเทียมไทยคม 7 ในปี 2557


อย่าง ไรก็ตาม เมื่อเดือนมกราคม 2556 เอ็มโฟน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเชนนิงตัน ได้แจ้งขอปิดกิจการต่อหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องในกัมพูชา และขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาตามขั้นตอน หากได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริษัทก็จะไม่ต้องแบกรับผลกระทบจากการขาดทุนของเอ็มโฟนต่อไปในปี 2556

“ใน ปี 2555 บริษัทประสบความสำเร็จหลายอย่าง เช่น การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียม จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช), การประสบความสำเร็จในการรักษาวงโคจรดาวเทียมของไทยที่ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก, การบรรลุข้อตกลงกรอบข้อกำหนดการขายช่องสัญญาณไอพีสตาร์ในจีน กับไชน่า เทเลคอม แซทเทลไลท์ และซีเนอร์โทน คอมมิวนิเคชั่น คอร์ปอเรชั่น ซึ่งปริมาณช่องสัญญาณไอพีสตาร์ในจีนคิดเป็น 24% ของปริมาณช่องสัญญาณทั้งหมดของดาวเทียมไอพีสตาร์ เป็นต้น”นางศุภจี กล่าวว่า

THCOM คาด​เจรจาปิดดีล iPSTAR กับอิน​เดีย​ใน Q1/56-​เซ็นสัญญา ​เม.ย.56


สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 มกราคม 2556 11:56:43 น.
     นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรม​การบริหาร​และประธาน​เจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.​ไทยคม(THCOM)​เปิด​เผยกับ"อิน​โฟ​เควสท์"ว่า บริษัทอยู่​ในขั้นตอน​การ​เจรจากับลูกค้าราย​ใหญ่​ในอิน​เดีย คาดว่าจะจบดีล​ได้ภาย​ใน​ไตรมาส 1/56 ​โดยจะขายช่องสัญญาณ iPSTAR ​ทั้งหมดที่​ให้บริ​การพื้นที่​ในอิน​เดีย(Capacity) ราว 16% อายุสัญญา 5 ปี
​ทั้งนี้ คาดว่าจะ​เซ็นสัญญา​ได้​ใน​เดือน ​เม.ย.56 ​โดยจะมี 3 ฝ่ายร่วมลงนาม คือ THCOM, Bharat Sanchar Nigam Limited (BSNL)ที่​เป็น​โอ​เปอ​เร​เตอร์ราย​ใหญ่ด้าน​โทรคมนาคมของอิน​เดีย ​และกลุ่มธุรกิจ​ในอิน​เดีย

"ตอนนี้กับอิน​เดีย​ก็ยัง​เจรจากันอยู่...คิดว่าจะจบ​ได้​ไน​ไตรมาส 1 ปีนี้​และจะ​เซ็นสัญญา ​เม.ย.56 อาจจะช้ากว่าจีน"นางศุภจี กล่าว

ส่วนลูกค้า​ในจีนที่ THCOM ​ได้​เจรจาขายสิทธิช่องสัญญาณดาว​เทียม iPSTAR ​ทั้ง 24% จะ​เซ็นสัญญา​ในวันที่ 1 ​เม.ย.56 ​เช่นกัน 

ประกอบด้วยสัญญา 2 ฉบับ คือ ​การขาย​เหมาช่องสัญญาณดาว​เทียม iPSTAR ระหว่าง THCOM กับ SYNERTONE (บริษัท​แม่ที่ถือหุ้น VAST 100%) ​และอีกฉบับ​เป็น​การขายกับรายย่อยที่​ได้ตกลง​ให้ส่วน​แบ่งราย​ได้จาก​การ ขายช่องสัญญาดาว​เทียมที่ VAST จะขาย​ให้กับ​ไชน่า ​เท​เลคอม ​เป็นสัญญา 3 ฝ่าย อายุสัญญา​ทั้งสองฉบับ​เท่ากับอายุ​การ​ใช้งานดาว​เทียมที่​เหลืออยู่ 9.5 ปี ​โดย​ได้รับชำระ​เงิน​เป็นรายปี ​ซึ่งบริษัทจะ​เริ่มรับรู้ราย​ได้​ในจีนตั้ง​แต่​เดือน ​เม.ย.56

"ราคา​ได้​เจรจา​เรียบร้อย​แล้ว รอรายละ​เอียด​ในสัญญา ที่จะ​เซ็น​ในวันที่ 1 ​เม.ย.56  ​โดยราคาที่ขาย​เหมา​เรา​ก็พอ​ใจ ​และ​เมื่อรวมกับส่วน​แบ่งราย​ได้ ​ก็​ไม่​ได้น้อยกว่าขายกับ end user"นางศุภจี กล่าว

นางศุภจี ยัง​เปิด​เผยว่า ขณะนี้ บมจ.ที​โอที ยังส่งหนังสือขอต่ออายุสัญญา​การ​ใช้งาน iPSTAR ออก​ไป 4 ​เดือน (8 ธ.ค.55- 8 ​เม.ย.56) ​และขอ​เพิ่ม​การ​ใช้ช่องสัญญาณ(Bandwidth) ​เพิ่ม​เท่าตัวจากที่​ใช้ 4% ​เป็น 8% ​เพื่อรองรับ​การ​โครง​การ school net ​และ​ใช้ประ​โยชน์สาธารณะ(USO) ​โดยระหว่างนี้อยู่​การพิจารณาของคณะกรรม​การที​โอทีที่​เพิ่ง​ได้รับ​การ​ แต่งตั้ง ​เนื่องจาก​การ​ทำสัญญา​ใหม่​เป็นสัญญาระยะยาว ​และมูลค่าสูง
หลังจาก​การ​ใช้งาน iPSTAR ดวง​แรกมี​เพิ่มขึ้น ​ทำ​ให้ช่วงครึ่ง​แรกของปีนี้ บริษัทจะต้อง​เริ่ม​เตรียม​การวาง​แผน​การสร้าง​และติดตั้งดาว​เทียม iPSTAR ดวงที่ 2 ​โดย iPSTAR ดวง​แรก​ใกล้จะมี​การ​ใช้งานช่องสัญญาณ​เกิน 40% ​ทั้งจากลูกค้า​ในจีน ญี่ปุ่น อิน​เดีย ​และ​ไทย ที่​ใช้ช่องสัญญาณ​เต็มที่ ​ซึ่งจะ​ทำ​ให้​เกินจุดคุ้มทุน 28% ​จึงต้อง​เริ่มวาง​แผนสร้างดวงที่ 2

"​เรามี committment จะสร้าง iPSTAR ดวงที่ 2 ​เมื่อ ดวง​แรก มี​การ​ใช้งาน​เกิน 50% ​ซึ่งระยะ​เวลา​เป็น​ไปตาม​แผนที่วาง​ไว้" ประธานกรรม​การบริหาร​และประธาน​เจ้าหน้าที่บริหาร THCOM กล่าว
นางศุภจี กล่าวว่า บริษัท​เชื่อมั่นว่าผลประกอบ​การ​ในปี 56 ​ทั้งราย​ได้​และกำ​ไรสุทธิจะดีขึ้นกว่าปี 55 ​โดยหลังจากที่บริษัท​ได้ขายกิจ​การ​เอ็ม​โฟน​ในกัมพูชาออก​ไป​ทำ​ให้บริษัท ​ได้กำ​ไรกลับมา​ไตรมาสละ 150 ล้านบาท ​เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่​เคยต้องมีภาระรับรู้ขาดทุนจาก​เอ็ม​โฟน​ไตรมาสละ 130-150 ล้านบาท ดังนั้น ​เมื่อหมดภาระดังกล่าว​ไป​จึง​ทำ​ให้ธุรกิจ​แข็ง​แรงขึ้น

"ปี 56 กำ​ไรจะดีมากขึ้น ​เพราะ iPSTAR ​ก็จะ​เลยจุดคุ้มทุน​ไป​แล้ว(​เม.ย.56) ดูจากปี 55 ​เรามีกำ​ไรติดต่อกัน 4 ​ไตรมาส ​แม้ว่าตอนนั้น iPSTAR ยัง​ไม่​ถึงจุดคุ้มทุน"นางศุภจี กล่าว
ราคาหุ้น THCOM ช่วง​เช้าวันนี้​เคลื่อน​ไหวที่ 25.75 บาท ​เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+1.98%) ​โดยราคาขึ้น​ไปสูงสุดที่ 26 บาท ​ซึ่ง​เป็นนิว​ไฮ​ในรอบ 17 ปี

THCOM ปี 56 เข้าสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด


โบรกฯ คาดปีนี้ THCOM เข้าสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด หลังยิงดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจร

ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   14/02/13   เวลา   9:36:27 

 บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท ไทยคม
จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2555 วานนี้ (13 ก.พ.56)
และออกมาดีกว่าคาดการณ์ของตลาดโดยมีกำไรสุทธิ 124.9 ล้านบาท ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด
ที่ราว 70-80 ล้านบาท และพลิกกลับจากขาดทุนสุทธิ 314.4 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2554


    พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2555 หุ้นละ 0.40 บาท โดยจะขึ้น XD วันที่ 2 เม.ย.
2556 คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.6%และราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ต่อเนื่องในไตร
มาส 1/2555 ได้แก่คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาให้บริการ Ipstar เพิ่มเติมกับ TOT ขึ้นเป็น
100% จากปัจจุบันที่ 50% ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า หลังครม.มีมติแต่งตั้ง CEO คนใหม่
ของ TOT แล้ววานนี้และการเซ็นสัญญาให้บริการ Ipstar กับจีน ในเดือน มี.ค.2556


    ดังนั้นจึงประเมินว่าผลประกอบการของ THCOM จะเข้าสู่การเติบโตแบบก้าว
กระโดดในปี 2556 เติบโต +439.4% yoy เป็น 938 ล้านบาท และการยิงดาวเทียมไทยคม 6
ขึ้นสู่วงโคจรในช่วงปลายไตรมาส 2/2556 จะเริ่มสร้างกำไรได้ทันที เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าเซ็น
สัญญาใช้บริการผ่านระดับจุดคุ้มทุนแล้ว เป็นอีกปัจจัยบวกสนับสนุนราคาหุ้น จึงแนะนำทยอย
สะสม โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 29.30 บาทต่อหุ้น

6

7

8

ข่าวย้อนหลังไทยคม ตุลาคม 55


3 ปัจจัย หนุน

วันจันทร์ที่ 01 ตุลาคม 2555 เวลา 16:15:51 น. ผู้เข้าชม : 780 คน
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ล่าสุด ณ เวลา 15.59 น. อยู่ที่ 19.80 บาท บวก 0.80 บาท หรือ4.21% มูลค่าการซื้อขาย 538.96 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาหุ้น THCOM เริ่มฟื้นตัวอีกครั้งในวันนี้หลังจากแกว่งตัวในกรอบ 18.40-19.70 บาทมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน 
       ขณะที่ข้อมูลจาก www.settrade.com ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำนวน 4 แห่งแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 22.38 บาท

    บล.เกียรตินาคินระบุในบทวิเคราะห์ว่า THCOM ยังมีประเด็นบวกที่รอความคืบหน้าในครึ่งปีหลัง ได้แก่ 

1) การต่อสัญญาใช้งาน Bandwidth IPSTAR ที่เหลือ 50% กับ TOT 

2) การเซ็นสัญญากับลูกค้าใหม่ในอินเดีย 1 ราย ทาให้ตลาด IPSTAR อินเดียจะมีการใช้ Bandwidth เพิ่มเป็น 2G และ 

3) การขายกิจการ Mfone ที่ให้น้ำหนักจะจบปีนี้

ประเมินมูลค่าเหมาะสม 23.60 บาท (DCF WACC @ 12%) แนะนำ “ซื้อ”

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ คำแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายกลางปี 2556 ที่คำนวณด้วยวิธี SOTP ใหม่เป็น 25 บาท การฟื้นตัวของผลการดำเนินงานและแนวโน้มที่สดใสของดาวเทียม iPSTAR และดาวเทียมแบบทั่วไป ทำให้เรายืนยันคำแนะนำ “ซื้อ” THCOM และปรับราคาเป้าหมายที่คำนวณด้วยวิธี SOTP ใหม่เป็น 25 บาท (จาก 20 บาท) 
     ซึ่งประกอบด้วย มูลค่าของธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจโทรศัพท์ที่ 23.3 บาท/หุ้น (คำนวณจากวิธี DCF โดยใช้ WACC 9.8% และ terminal growth 1%) และมูลค่าเงินลงทุน 42% ใน CSL (ซึ่งมีราคาเป้าหมายที่ 8.2 บาท) ที่ 1.7 บาท/หุ้น ปัจจุบัน THCOM เทรดที่ EV/EBITDA ระดับ 7.5 เท่าในปี 2555 และ 6.5 เท่าในปี 2556 ซึ่งยังต่ำกว่า EV/EBITDA เฉลี่ย 10 ปีของบริษัทที่ 8.4 เท่า 
     นอกจากนี้แล้ว ณ ราคาเป้าหมายของเราที่ 25 บาท THCOM จะเทรดที่ EV/EBITDA ปี 2556 ระดับ 8.3 เท่า

AFRICOM-1 ดาวเทียมใหม่จาก Thaicom เปิดให้บริการในทวีปแอฟริกา



แอฟริคอม-1 เป็นดาวเทียมที่ให้บริการในทวีปแอฟริกา ซึ่งใช้ช่องสัญญาณบนดาวเทียมไทยคม 6 ที่มีกำหนดยิงขึ้นสู่วงโคจรในปี 2556 แอฟริคอม -1 เตรียมพร้อมให้บริการโทรคมนาคมและดาวเทียมในแอฟริกา ด้วยศักยภาพที่ครบวงจรด้านการให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมผ่านทางช่อง สัญญาณระบบซี-แบนด์ รวมถึงบริการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมถึงผู้รับชมตามบ้าน (Direct-to-Home TV) ดิจิทัลทีวี และบริการด้านโทรคมนาคมอื่นๆ
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม กล่าวว่า การเปิดตัวดาวเทียมแอฟริคอม-1 เป็นกลยุทธ์ของบริษัทในการขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอื่น นอกเหนือจาก เอเชีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยไทยคมได้เล็งเห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งในตลาดดาวเทียมของแอฟริกา ประกอบกับประสบการณ์ในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการดาวเทียมของไทยคมมากว่า 20 ปี
นายประทีป อันนี ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการตลาดและงานขาย บมจ.ไทยคม กล่าวเสริมว่า การเปิดตัวแอฟริคอม-1 ไทยคมพร้อมให้บริการแก่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม และดาวเทียมในแอฟริกา ด้วยศักยภาพการให้บริการที่ครบวงจรในด้านบริการสื่อสารผ่านดาวเทียมผ่านทาง ช่องสัญญาณระบบซี-แบนด์


 “เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทจัดแคมเปญทางการตลาดและการขายล่วงหน้า ในงานแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยี ‘แอฟริกาคอม 2012’ (AfricaCom2012) ที่เคปทาวน์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดี”
ไทยคม เป็นผู้ประกอบการดาวเทียมรายแรกของโลกที่เปิดตัวดาวเทียมบรอดแบนด์ อีกทั้งยังเป็นผู้ประกอบด้านโทรคมนาคมรายแรกของเอเชียที่ให้บริการโทรทัศน์ ดิจิทัลผ่านดาวเทียมด้วยเทคโนโลยี MPEG-2 รวมถึงบริการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมถึงผู้รับชมตามบ้าน
ปัจจุบัน มีจำนวนช่องรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศมากกว่า 450 ช่อง บนดาวเทียมไทยคม ณ ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก ซึ่งเป็นตำแหน่งวงโคจรเดียวกับที่แอฟริคอม-1 จะให้บริการในทวีปแอฟริกา


ดาวเทียมไทยคม





     บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (Thaicom Public Company Limited) เดิมชื่อ บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) (Shin Satellite Public Company Limited) คือหนึ่งในธุรกิจของ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไทยคม เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวของประเทศไทย ที่เป็นผู้ให้บริการธุรกิจดาวเทียมเชิงพาณิชย์ ได้รับสัมปทานจากกระทรวงคมนาคม (ปัจจุบันอำนาจการดูแลสัญญาถูกโอนไปยัง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) ในปี 2534 เพื่อดำเนินการจัดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรและให้บริการช่องสัญญาณดาวเทียม รวมถึงบริหารงานโครงการดาวเทียมไทยคมภายใต้ข้อตกลงแบบ BTO (Build-Transfer-Operate)

    "ไทยคม" (Thaicom) เป็นชื่อที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้เป็นชื่อของดาวเทียม ซึ่งมาจากคำว่า "Thai Communications" ในภาษาอังกฤษ



รายละเอียดเกี่ยวกับดาวเทียมแต่ละดวง

 

ไทยคม 1/1A

ไทยคม 1 เป็นดาวเทียมดวงแรกของประเทศไทย ถูกยิงขึ้นสู่วงโคจรในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2536 สร้างโดย Huges Space Aircraft เดิมมีพิกัดโคจรที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก ต่อมาได้ทำการย้ายพิกัดใหม่ไปยังตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก และเปลี่ยนการเรียกชื่อเป็น ไทยคม 1A อายุในการทำงานประมาณ 15 ปี ปัจจุบัน เป็นการใช้งานหลังช่วงอายุคาดการณ์

ไทยคม 2

ไทยคม 2 เป็นดาวเทียมดวงที่ 2 ของประเทศไทย ถูกยิงขึ้นสู่วงโคจรในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2537 โคจรบริเวณพิกัดที่ 78.5 องศาตะวันออก ดาวเทียมมีอายุใช้งาน 15 ปี ปัจจุบันใกล้หมดอายุใช้งาน และอยู่ในช่วงการถ่ายโอนการให้บริการไปยัง ไทยคม 3

ไทยคม 3

ไทยคม 3 ประกอบด้วยช่องสัญญาณความถี่ย่าน C-Band จำนวน 25 ช่องสัญญาณ และ ช่องสัญญาณความถี่ย่าน Ku-Band จำนวน 14 ช่องสัญญาณ ช่องสัญญาณแบบ Global beam ของไทยคม 3 มีกำลังในการส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 4 ทวีป ให้บริการในทวีป เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกา โดยความถี่ทั้ง 2 ย่านความถี่นั้นจะให้บริการทางด้านสัญญาณรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมตรงถึง ที่พักอาศัย หรือ DTH (Direct To Home) ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ไทยคม 3 โคจรบริเวณพิกัดเดียวกับ ไทยคม 2

ไทยคม 4 หรือ ไอพีสตาร์

ดาวเทียมไอพีสตาร์ หรือ ดาวเทียมไทยคม 4 (IPStar-1 หรือ Thaicom-4) เป็นดาวเทียมรุ่น LS-1300 SX ผลิตโดย Space System/Loral พาโล อัลโต สหรัฐอเมริกา เป็นดาวเทียมดวงแรกที่ออกแบบมาเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ความเร็ว 45 Gbps และเป็นดาวเทียมสื่อสารเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่และมีน้ำหนักมากที่สุดในปัจจุบัน มีน้ำหนักถึง 6505 กิโลกรัม ไอพีสตาร์มีช่องการสื่อสารแบบ KU-Band จำนวน 87 ช่อง และ KA-Band จำนวน 10 ช่อง มีความทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ส่งขึ้นสู่วงโคจรเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ด้วยจรวดแอเรียน 5 จากดินแดนเฟรนช์เกียนาในทวีปอเมริกาใต้ มีอายุการใช้งานประมาณ 12 ปี

ไทยคม 5

ไทยคม 5 ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ ในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 จากฐานยิงจรวด ศูนย์อวกาศกิอานา เมืองคูรู จังหวัดโพ้นทะเลเฟรนช์ กิอานา พร้อมกับดาวเทียม SATMEX ของประเทศเม็กซิโก ไทยคม 5 เป็นดาวเทียมรุ่น Spacebus 3000A ผลิตโดย Alcatel Alenia Space ประเทศฝรั่งเศส มีพิสัยครอบคลุมถึง 4 ทวีป เป็นดาวเทียมสำหรับการถ่ายทอดสัญญาณรายการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมตรงถึงที่พักอาศัย หรือ Direct-to-Home (DTH) และการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ดิจิตอลความละเอียดสูง (High Definition TV)

 

ไทยคม 6 ( อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เสร็จและพร้อมส่งขึ้น กลางปี 56 )

ไทยคม6 เป็นดาวเทียมรุ่น สร้างโดย Space Exploration Technologies (SpaceX) มีน้ำหนัก3000 กิโลกรัม มีพื้นที่การให้บริการครอบคลุมพื้นที่ 4 ทวีป ใช้เป็นดาวเทียมสำหรับการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมตรงถึงที่พักอาศัยหรือ Direct-to-Home (DTH) และการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ดิจิตอลความละเอียดสูง (High Definition TV)


ไทยคม 7 ( อยู่ระหว่างการศึกษา ส่งขึ้นปี 57 )