25 มกราคม 2556 เวลา 16:08 น.
กสทช.ชี้แจงออกใบอนุญาตดาวเทียมไทยคมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ อัดกลุ่มหน้าเดิมบิดเบือนข้อมูล ซ้ำรอยกรณีประมูลคลื่น 3 จี
ทั้งนี้ การที่ กทค. อนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมในครั้งนี้เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของ ชาติ เนื่องจากทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมไว้ได้ ในขณะที่ ไทยคม ได้ดำเนินการภายใต้มติ ครม. ที่อนุมัติให้ ไทยคม ดำเนินการรักษาสิทธิวงโคจรและจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่ขึ้นตามข้อกำหนด ITU ซึ่งหาก กสทช.ไม่อนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมให้กับ ไทยคม จะส่งผลทำให้ ไทยคม ไม่สามารถดำเนินการติดต่อประสานงานเพื่อจัดหาดาวเทียมอื่นมาไว้ที่วงโคจร เป็นการชั่วคราวได้ และหากไม่มีดาวเทียมขึ้นให้บริการภายในเวลาที่กำหนด (ตามหลัก ITU) ประเทศไทยก็จะเสียสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ 120 องศาตะวันออกที่ได้รักษาไว้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อประเทศไทย
สำหรับประเด็นขั้นตอนในการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามอำนาจ หน้าที่ของกทค. ซึ่งในการดำเนินการ กทค.ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ ทำให้ ไทยคม เข้ามาอยู่ในระบบการควบคุมภายใต้กติกาโทรคมนาคมเสียก่อน ซึ่งการออกใบอนุญาตประเภทนี้ไม่ต้องดำเนินการโดยประมูลคลื่นความถี่ แต่หากภายหลัง ไทยคม ต้องการขออนุญาตใช้คลื่นความถี่ เพื่อกิจการโทรคมนาคมก็ต้องดำเนินการโดยวิธีการประมูลคลื่นความถี่ตามมาตรา 45 ส่วนการดำเนินการให้ได้มาซึ่งเอกสารจองสิทธิในวงโคจรและย่านความถี่ (Filing) นั้นจะต้องดำเนินการโดยกระบวนการระหว่างประเทศตามข้อกำหนด ITU
นอกจากนี้ที่ระบุว่าให้บริษัท ไทยคม ส่งเอกสารจองสิทธิการใช้งานวงโคจรเพิ่มเติมที่ตำแหน่งวงโคจรใดๆ ได้ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับ ไทยคม ที่เป็นผู้ประกอบการรายเก่าในการขยายสิทธิการใช้วงโคจรที่มีอยู่อย่างจำกัด จนอาจทำให้ไม่มีวงโคจรเหลือสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตามข้อเท็จจริงนั้น ITU มิได้มีการจำกัดจำนวนสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ประเทศหนึ่งประเทศใดจะจองสิทธิ แต่อย่างใด ดังนั้นการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดเพื่อผู้ประกอบการดาวเทียม สื่อสารทุกรายที่เป็นผู้ได้รับอนุญาตจาก กสทช. จะได้สามารถส่งเอกสารจองสิทธิการใช้งานวงโคจร (Filing) ที่วงโคจรใดๆ ก็ได้เช่นกัน มิใช่เป็นการอนุญาตหรือให้สิทธิเป็นการเฉพาะแก่ ไทยคม
“การที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ จึงควรศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้เข้าใจเสียก่อน มิเช่นนั้นอาจจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจนเกือบจะทำให้ประเทศชาติเสีย ประโยชน์เหมือนกับกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี ที่ผ่านมา” นายสุทธิพล กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น