วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กสทช.เคลียร์ปมออกใบอนุญาตไทยคม 7



25 มกราคม 2556 เวลา 16:08 น.

     กสทช.ชี้แจงออกใบอนุญาตดาวเทียมไทยคมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ อัดกลุ่มหน้าเดิมบิดเบือนข้อมูล ซ้ำรอยกรณีประมูลคลื่น 3 จี  

      นายสุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย และในฐานะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เปิดเผยถึง กรณีที่มีการนำประเด็นที่ กสทช. โดย กทค. ให้ใบอนุญาตประกอบกิจการแก่บริษัทไทยคม ในฐานะผู้ให้บริการช่องดาวเทียม ที่มีอายุ 20 ปี โดยไม่ผ่านการประมูลคลื่นความถี่ ไปร้องต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา ว่า ใบอนุญาตที่อนุมัติให้ ไทยคมเป็นใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม มิใช่ใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ตามมาตรา 45 แห่ง พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 จึงไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติดังกล่าว และไม่ต้องดำเนินการโดยวิธีการประมูลคลื่นความถี่

    ทั้งนี้ การที่ กทค. อนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมในครั้งนี้เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของ ชาติ เนื่องจากทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมไว้ได้  ในขณะที่ ไทยคม ได้ดำเนินการภายใต้มติ ครม. ที่อนุมัติให้ ไทยคม ดำเนินการรักษาสิทธิวงโคจรและจัดสร้างดาวเทียมดวงใหม่ขึ้นตามข้อกำหนด ITU ซึ่งหาก กสทช.ไม่อนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมให้กับ ไทยคม จะส่งผลทำให้ ไทยคม ไม่สามารถดำเนินการติดต่อประสานงานเพื่อจัดหาดาวเทียมอื่นมาไว้ที่วงโคจร เป็นการชั่วคราวได้ และหากไม่มีดาวเทียมขึ้นให้บริการภายในเวลาที่กำหนด (ตามหลัก ITU) ประเทศไทยก็จะเสียสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ 120 องศาตะวันออกที่ได้รักษาไว้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่งต่อประเทศไทย

   สำหรับประเด็นขั้นตอนในการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามอำนาจ หน้าที่ของกทค. ซึ่งในการดำเนินการ กทค.ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ ทำให้ ไทยคม เข้ามาอยู่ในระบบการควบคุมภายใต้กติกาโทรคมนาคมเสียก่อน  ซึ่งการออกใบอนุญาตประเภทนี้ไม่ต้องดำเนินการโดยประมูลคลื่นความถี่ แต่หากภายหลัง ไทยคม ต้องการขออนุญาตใช้คลื่นความถี่ เพื่อกิจการโทรคมนาคมก็ต้องดำเนินการโดยวิธีการประมูลคลื่นความถี่ตามมาตรา 45 ส่วนการดำเนินการให้ได้มาซึ่งเอกสารจองสิทธิในวงโคจรและย่านความถี่ (Filing) นั้นจะต้องดำเนินการโดยกระบวนการระหว่างประเทศตามข้อกำหนด ITU

    นอกจากนี้ที่ระบุว่าให้บริษัท ไทยคม ส่งเอกสารจองสิทธิการใช้งานวงโคจรเพิ่มเติมที่ตำแหน่งวงโคจรใดๆ ได้ ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับ ไทยคม ที่เป็นผู้ประกอบการรายเก่าในการขยายสิทธิการใช้วงโคจรที่มีอยู่อย่างจำกัด จนอาจทำให้ไม่มีวงโคจรเหลือสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตามข้อเท็จจริงนั้น ITU มิได้มีการจำกัดจำนวนสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่ประเทศหนึ่งประเทศใดจะจองสิทธิ แต่อย่างใด  ดังนั้นการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวจึงเป็นการกำหนดเพื่อผู้ประกอบการดาวเทียม สื่อสารทุกรายที่เป็นผู้ได้รับอนุญาตจาก กสทช. จะได้สามารถส่งเอกสารจองสิทธิการใช้งานวงโคจร (Filing) ที่วงโคจรใดๆ ก็ได้เช่นกัน มิใช่เป็นการอนุญาตหรือให้สิทธิเป็นการเฉพาะแก่ ไทยคม

การที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ จึงควรศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้เข้าใจเสียก่อน มิเช่นนั้นอาจจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจนเกือบจะทำให้ประเทศชาติเสีย ประโยชน์เหมือนกับกรณีการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี ที่ผ่านมานายสุทธิพล กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น